วันอังคารที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560

สารให้ความหวาน

      หลายคนคิดว่าอยากจะลดน้ำตาล เพื่อลดอ้วน ทางเลือกนึงก็คือ หันไปใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล แต่รู้มั๊ยว่า สารให้ความหวาน มีกี่ชนิด วันนี้เราจะมารู้จักกันว่ามันมีกี่ชนิดบ้าง


           1. แอสปาเทม

                 ให้ความหวานประมาณ 200-300 เท่าของน้ำตาลทรายในปริมาณเดียวกัน และมีรสชาติใกล้เคียงน้ำตาลทรายมากที่สุด จึงเป็นที่นิยมใช้ในปัจจุบันนี้


           2. ไซลิทอล

                 เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล พบได้ในพืช ผัก ผลไม้หลายชนิด อาทิ สตรอเบอร์รี่ ต้นเบิร์ช


           3. ซัยคาเมต

                 มีความหวานประมาณ 30 เท่าของน้ำตาลซูโครส ซึ่งปัจจุบันได้ห้ามใช้แล้ว ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2522) เนื่องจากพบว่าสามารถทำให้เกิดมะเร็งในสัตว์ทดลอง


           4. ซัคคาริน

                เป็นสารเคมีที่ใช้กันแพร่หลายมีความหวานเป็น 300 - 400 เท่าของน้ำตาลซูโครส  ถ้าหากรับประทานซัคคารินในขนาด 5 - 25 กรัมต่อวันเป็นเวลาหลาย ๆ วัน หรือรับประทานครั้งเดียว 100 กรัม จะทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ปวดท้อง ซึมและชักได้


           5. สตีวิโอไซด์

                 มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว ดูดความชื่นได้ดี มีความหวานประมาณ 280 - 300 เท่าของน้ำตาลทราย ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการให้พลังงานต่ำ ประมาณร้อยละ 0 - 3 แคลอรี จึงเหมาะที่จะใช้เป็นสารให้ความหวานกับอาหารสำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคหัวใจ




วันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2560

การบาดเจ็บที่ดวงตา

      วันนี้คิดจะช่วยแม่ทำกับข้าวในครัว แต่ได้เรื่องน้ำมันทอดกระเด็น เข้ามาที่ใบหน้า แต่ด้วยมีสติ จึงรีบเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำจากฝักบัวรดหน้าเพื่อช่วยลดความร้อน กับทั้งน้ำมันยังไม่ร้อนจัด จึงไม่เป็นอะไร ก็เลยหยิบยกเรื่องการปฐมพยาบาลมาดูกันสักนิด

      ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ เฉียดโดนลูกตาไปนิดนึง จึงคิดว่า หากโดนตาจังๆคงแย่ ดังนั้นเลยหาข้อมูลเกี่ยวกับการบาดเจ็บดวงตา (ขอใส่เป็น link นะครับ)

      http://mcpswis.mcp.ac.th/html_edu/cgi-bin/mcp/main_php/print_informed.php?id_count_inform=15659
     

วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560

สารดูดความชื้น

      สารดูดความชื้น หรือบางคนเรียกสารกันความชื้น หลายคนไม่รู้ว่ามันมีหลายชนิด ผมเองก็เพิ่งจะรู้ว่ามันมีด้วยกันดังนี้


           1. ซิลิก้า เจล (Silica Gel) เป็นสารสังเคราะห์ของทรายขาวผสมกรดกัมมะถัน ลักษณะเป็นเม็ดเจลกลม มีโพรงและรูพรุน แบ่งได้ 4 ชนิด

                - ชนิดสีขาว เป็นเม็ดสีขาวขนาดประมาณ 2 - 5 มิลลิเมตร สามารถดูดความชื้นได้ประมาณ 35% - 40%

                - ชนิดสีน้ำเงิน เป็นเม็ดสีน้ำเงิน ส่วนความสามารถก็เหมือนกับชนิดสีขาว แต่พิเศษกว่าตรงที่มีการเติมสารชนิดหนึ่งเข้าไปเพื่อใช้ตรวจวัดระดับความชื้นที่ดูดกักเก็บไว้แล้ว คือ ปกติจะเป็นสีน้ำเงิน เมื่อมีระดับความชื้นเพิ่มขึ้น สีจะเปลี่ยนไปเป็นสีชมพูหรือม่วงอ่อน นั่นคือสารดูดความชื้นหมดอายุการใช้งานแล้วต้องเปลี่ยนใหม่

                - ชนิดสีส้ม เหมือนกับชนิดสีน้ำเงินทุกประการ ที่ต่างกันก็มีอยู่ว่า มันใช้สารจากธรรมชาติให้สีปกติเป็นสีส้ม และเมื่อใช้งานก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม

                - ชนิดเม็ดทราย เหมือนชนิดสีขาว แต่มีขนาดเล็กกว่า นั่นคือ 1 มิลลิเมตร


           2. สารดูดความชื้นจากธรรมชาติ ผลิตจากดินไดอะตอมเมเชียล เอิร์ท ลักษณะเป็นเม็ดกรวดสีน้ำตาล หรือสีเทา ไม่ก่อให้เกิดมลพิษกับสิ่งแวดล้อม มีความสามารถในการดูดความชื้นที่ 35% - 40%


           3. สารดูดความชื้นชนิดอื่นๆ มีความสามารุถในการดูดความชื้นต่ำกว่า 30%  อาทิเช่น แคลเซี่ยมออกไซด์ , โมเลกุลล่า ซีฟ , แคลเซี่ยม ซัลเฟต เป็นต้น



วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ชนิดของสารกันบูด

      สารกันบูด คืออะไรก็ได้พูดไปแล้ว คราวนี้มาดูกันว่า สารกันบูดมีกี่ชนิด


           1. กรดและเกลือของกรดบางชนิด เช่น กรดเบนโซอิก กรดซอร์บิก กรดโปรปิโอนิก ฯลฯ สารกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะให้ผลยับยั้งราและ ยีสต์มากกว่าแบคทีเรีย ข้อดีของสารกลุ่มนี้คือมีความเป็นพิษต่ำ เพราะ ร่างกายคนสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นสารอื่นที่ไม่มีพิษและขับถ่ายออกจาก ร่างกายได้

           2. พาราเบนส์ (parabens) เป็นสารกันบูดที่มีประสิทธิภาพยับยั้ง หรือทำลายราและยีสต์ได้ดีกว่าแบคทีเรีย ร่างกายคนจะมีกระบวนการขจัดพิษของพาราเบนส์ ได้โดยปฏิกิริยาไฮโดรลีซิส (hydrolysis)

           3. ซัลเฟอร์ไดออกไซด์และซัลไฟต์ สารกันบูดชนิดนี้จะคล้ายคลึงกับสารกันบูดกลุ่มแรกและจะมีประสิทธิภาพสูง สารชนิดนี้สามารถขับออกจากร่างกายได้ก็จริง แต่หากร่างกายได้รับสารนี้ มากเกินไป สารดังกล่าวจะไปลดการใช้โปรตีนและไขมันในร่างกายได้

           4. สารปฏิชีวนะ ข้อดีของสารปฏิชีวนะคือ ความเป็นกรดด่างของ อาหาร ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพของสาร ซึ่งอาหารที่นิยมใส่สารปฏิชีวนะ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ อาจจะพบว่าใช้กับผักและผลไม้สดด้วย ข้อเสียของสารกันบูดชนิดนี้คือมักจะก่อให้เกิดสายพันธุ์ต้านทานขึ้น


     อย่างไรก็ตามการใช้วัตถุกันเสียในการถนอมอาหารตามสัดส่วนที่ อย.ระบุว่าปลอดภัยแม้ว่าจะไม่มีอันตราย แต่การหลีกเลี่ยงบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของวัตถุกันเสียก็เป็นการดีกว่า เมื่อรู้แล้วลองดูที่ฉลากก่อนดื่ม ก่อนใช้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตมากขึ้นนะครับ




วันพุธที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2560

สารกันบูด

      สารกันบูด (preservatives) คือสารเคมีหรือของผสม ของสารเคมีที่ใช้ในการถนอมอาหาร โดยอาจจะใส่ลงในอาหาร พ่น- ฉาบรอบๆผิวของอาหารหรือภาชนะ บรรจุสารดังกล่าวจะทำหน้าที่ยับยั้ง หรือทำลายจุลินทรีย์ที่ทำให้อาหาร เน่าเสีย  ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเกิด สายพันธุ์ต้านทาน (resistant strain)



      สารกันบูด เป็นสารเคมีที่ช่วยยืดอายุการเก็บรักษา ช่วยในการถนอมอาหารได้ เพราะช่วยชะลอหรือยับยั้งการเจริญเติบโตและทำลายจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุการเน่าเสียของอาหาร ตัวที่นิยมกันมากคือ พวกกรดอ่อนต่างๆ เช่น กรดเบนโซอิกและเกลือเบนโซเอท เพราะมีราคาถูกและไม่ทำให้รสชาติอาหารเปลี่ยน มักเติมลงในเครื่องดื่มต่างๆ เช่น น้ำผลไม้ ซอส ผักดอง แยม เยลลี่ ผลไม้แช่อิ่ม และเครื่อแกงสำเร็จรูป สำหรับกรดโปรปิโอนิก และเกลือโปรปิโอเนตเหมาะสำหรับใช้ป้องกันการเจริญของเชื้อรา



วันอังคารที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2560

REST API

      REST (Representational State Transfer) ถูกกำหนดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2000 มารู้จักก็ตอนปี 2008 ไปแล้ว

      REST เป็นการทำให้ข้อมูลอยู่ในรูปแบบของ resource โดยอาศัย HTTP Method (GET, POST, PUT, DELETE) ในการทำงาน  และส่งผลกลับมาในรูปแบบของ JSON หรือ XML

      ซึ่งเป็นการรับส่งข้อมูลไปมาระหว่าง Web Service และ Client โดยมันจะหน้าตาแบบข้างล่างนี่เลย

initial line
header1: value 1
header2: value 2
...
headerN: value N
blankLine
message body

      สำหรับ Method ที่ใช้ ก็มีดวยกัน 4 Method ดังนี้

           1. GET – อันนี้เอาไว้ เรียกข้อมูล
           2. POST – เอาไว้ส่งข้อมูล
           3.PUT – เอาไว้ส่งข้อมูลเหมือนกัน แต่จะส่งค่าไปได้ด้วย
           4.DELETE –  เอาลบข้อมูลนั่นเอง


ข้อดี

     - ทำการอยู่บน HTTP และทำตามมาตรฐานของ HTTP จึงทำให้พัฒนาได้ง่าย
     - สนับสนุนรูปแบบข้อมูลมากมาย เช่น XML, JSON, Plain Text และอื่น ๆ อีกมากมาย
     - รองรับการขยายระบบได้ง่าย
     - มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดี
     - รองรับเรื่อง caching ข้อมูล


ข้อเสีย

     - ทำงานได้เฉพาะ HTTP protocol เท่านั้น
     - ไม่มีเรื่องของ security และ reliability มาให้ในตัว ดังนั้นต้องทำเอง
     - รูปแบบข้อมูลที่ส่งไปมาระหว่าง client-server ไม่มีข้อจำกัดอะไรเลย


วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560

PWA

      พอดีได้ดู Video ดีๆที่ลูกพี่ได้แชร์มา ก็เลยเข้าไปดูซะหน่อย แล้วก็เลยเอามาแชร์ต่อครับ ส่วนรายละเอียดอาจจะน้อยไปหน่อย เพราะยังไม่ได้อ่านเพิ่มเติมอะไร เอาไปแบบข้าวๆไม่มีกับไปก่อนนะ


      PWA (Progressive Web App) เป็นแนวทางการพัฒนาเว็บแอพยุคใหม่ ซึ่งมันไม่มีกรอบตายตัวว่าจะต้องใช้อะไร อย่างไร เพียงแต่มีจุดที่จะบอกว่ามันเป็น PWA ก็ตามนี้ครับ

           1. App Like มีหน้าตาคล้าย App แต่ทำงานบนเว็บ

           2. Add to Home Screen คือ Feature ที่เรา Bookmark ไว้บนหน้าจอโทรศัพท์ได้

           3. Off Line คือ Service Worker ที่เพิ่มเข้ามาให้ App สามารถทำงานได้แม้ตัด Internet แล้วก็ตาม ซึ่งบางส่วนอาจจะใช้งานไม่ได้ เพราะต้องต่อ API แต่การทำงานบางฟังก์ชั่นก็ยังทำงานได้อยู่

           4. Web Notification ใช้สำหรับส่งข้อความหรือสถานะต่างให้ผู้ใช้งานได้รับรู้ แม้ไม่ได้เปิด App ขึ้นมาแสดงบนหน้าจอ (ซึ่งอันนี้จะมีหรือไม่มีก็ได้)

ดูคลิปได้ที่ https://www.facebook.com/web.developer.th/videos/1862240054102843/

วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2560

บุหรี่


      บุหรี่ หลายคนก็สูบ แม้แต่พ่อผมก็สูบมัน หลายคนก็รู้ว่ามีสารอันตรายในบุหรี่ แล้วรู้หรือไม่ว่ามีสารอะไรบ้าง เราลองมาดูกัน


      ในบุหรี่มีสารเคมีที่เป็นพิษ เมื่อสูดดมเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เซลล์ในร่างกายเปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็งและส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกมากมาย

      1. นิโคติน เป็นสารคล้ายน้ำมัน ไม่มีสี ทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบตัน ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็ว เพิ่มไขมันในเส้นเลือด ทำลายเนื้อปอดและถุงลมปอด กระตุ้นระบบประสาท

      2. ทาร์ เป็นสารคล้ายน้ำมันดิน ทำให้เกิดมะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง ไอเรื้อรัง หอบเหนื่อย

      3. คาร์บอนมอนอกไซด์ ทำให้หัวใจและร่างกายส่วนอื่นๆ ได้รับออกซิเจนน้อยหรือขาดออกซิเจน ทำให้เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย มึนงง และเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ

      4.ไฮโดรเจนไซยาไนด์ จะทำลายเยื่อบุหลอดลม ทำให้หลอดลมอักเสบเรื้อรัง ระคายเคือง ไอเรื้อรัง มีเสมหะ

      5. ไนโตรเจนไดออกไซด์ เป็นก๊าซพิษที่ทำลายเยื่อบุหลอดลมส่วนปลายและลุงลมทำให้เกิดโรคถุงลมโป่งโพง

      6. แอมโมเนีย ทำให้หลอดลมอักเสบระคายเคือง ไอ มีเสมหะมาก

      7. สารกัมมันตรังสี ทำให้เกิดมะเร็งปอดและมะเร็งระบบทางเดินหายใจ

      8. แร่ธาตุต่างๆ เป็นสารตกค้างในใบยาสูบจากการพ่นยาฆ่าแมลงเป็นพิษต่อร่างกายก่อเกิดมะเร็งได้




โรคพิษสุนัขบ้า

      โรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคกลัวน้ำ (อังกฤษ: rabies, hydrophobia) เป็นโรคไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบเฉียบพลันของสมองในมนุษย์และสัตว์เลือดอุ่นชนิดอื่น  เกิดจากลิสซาไวรัส (lyssavirus)


      ไวรัสโรคพิษสุนัขบ้าเดินทางไปสมองโดยตามประสาทส่วนปลาย โรคนี้สามารถวินิจฉัยได้หลังเริ่มแสดงอาการแล้วเท่านั้น


อาการ
      ช่วงระหว่างการติดเชื้อจะมีอาการคล้ายหวัด ช่วง 2 ถึง 12 สัปดาห์ในมนุษย์ เป็นระยะฟักตัว และอาจนานกว่าหกปี ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและความรุนแรงของแผลที่มีการปนเปื้อนและปริมาณไวรัสที่เข้าสู่ร่างกาย จากนั้นอาการอาจเพิ่มเป็นอัมพาตเล็กน้อยหรือบางส่วน วิตกกังวล นอนไม่หลับ สับสน กระสับกระส่าย มีพฤติกรรมผิดปกติ โรคจิตหวาดระแวงและประสาทหลอน อาการเพ้อ

การป้องกัน
       กระทรวงสาธารณสุขได้วางแนวทางการป้องกันโรคไว้ 3 ขั้นตอน ดังนี้

       1.ก่อนถูกกัด ใช้หลักการคาถา 5 ย. ป้องกันการถูกกัด ได้แก่ “อย่าแหย่ อย่าเหยียบ อย่าแยก อย่าหยิบ อย่ายุ่ง” คือ อย่าแหย่ให้สุนัขโมโห อย่าเหยียบสุนัข หรือทำให้สุนัขตกใจ อย่าแยกสุนัขที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า อย่าหยิบชามอาหารขณะสุนัขกำลังกิน และอย่ายุ่งกับสุนัขนอกบ้านหรือที่ไม่ทราบประวัติ

       2.กรณีถูกกัด ให้รีบล้างแผลด้วยสบู่ และน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง ใส่ยาฆ่าเชื้อ เช่น เบตาดีน และรีบไปพบแพทย์โดยทันที เพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคอย่างเหมาะสม รวมถึงกักขังสัตว์ที่กัดสังเกตอาการอย่างน้อย 10 วัน หากสัตว์ตัวนั้นมีอาการปกติแสดงว่าไม่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า แต่หากสุนัข หรือแมวเสียชีวิต ให้รีบแจ้งกรมปศุสัตว์ หรือสถานเสาวภา เพื่อส่งตรวจหาเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าทางห้องปฏิบัติการ

      3.หลังจากถูกกัด ควรรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างต่อเนื่องครบชุดตามเวลาที่แพทย์นัด หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422




วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ไข้เลือดออก

      โรคไข้เลือดออกถือเป็นโรคประจำถิ่นในประเทศแถบอาเซียน ซึ่งพบการระบาดในหลายประเทศ  สำหรับในประเทศไทยเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยทั่วประเทศ 63,931 ราย เสียชีวิต 64 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ15-24 ปี รองลงมา 10-14 ปี และ 25-34 ปี ตามลำดับ ส่วนในปี 2560 นี้มีผู้ป่วยทั่วประเทศแล้ว 11,062 ราย เสียชีวิต 19 ราย


      โรคไข้เลือดออก มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสเดงกี ซึ่งในแถบประเทศอาเซียนนี้สามารถพบได้ 4 สายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์มีความรุนแรงไม่แตกต่างกันมาก ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยไม่มีไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ นอกเหนือจาก 4 สายพันธุ์ที่เคยพบมาแล้ว  หากป่วยเป็นครั้งแรกอาการจะไม่รุนแรง แต่ถ้าป่วยเป็นครั้งที่สองอาการจะรุนแรงขึ้น ในเชื้อที่ต่างจากชนิดที่เป็นครั้งแรก


      อาการของโรค ไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย เบื่ออาหาร หน้าแดง ผิวหนังเป็นจุดเลือด อาเจียน ปวดท้อง และควรไปพบแพทย์เมื่อมีไข้สูง เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยโรค และเฝ้าระวังเป็นพิเศษในช่วงไข้ลดหากเกิดอาการช็อกจากไข้เลือดออก ต้องรีบกลับไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด หากช้าอาจทำให้เสียชีวิตได้


      การป้องกัน เราสามารถใช้มาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” คือ

           1.เก็บบ้านให้สะอาด โปร่ง โล่ง ไม่ให้มีมุมอับทึบ เป็นที่เกาะพักของยุง

           2.เก็บขยะ เศษภาชนะรอบบ้าน โดยทำต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง

           3.เก็บน้ำ สำรวจภาชนะใส่น้ำ ต้องปิดฝาให้มิดชิด ป้องกันยุงลายไปวางไข่

      ส่วนป้องกัน 3 โรค ก็คือ โรคไข้เลือดออก  โรคติดเชื้อไวรัสซิก้า และ โรคไข้ปวดข้อยุงลาย



วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ตู้น้ำหยอดเหรียญ ภัยใกล้ตัว

      ตู้น้ำหยอดเหรียญ หลายคนเคยใช้ หรือปัจจุบันก็ยังใช้  แต่รู้มั๊ยว่ากรมอนามัย พบว่า ในปี 2559 มีน้ำบริโภคจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ร้อยละ 40 ซึ่งสาเหตุที่ไม่ผ่านเกณฑ์ คือพบแบคทีเรีย ความเป็นกรด-ด่าง สี และความขุ่น ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะโรคอุจจาระร่วง โรคระบบทางเดินอาหาร โรคบิด เป็นต้น


      เราควรสังเกตสภาพของตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญทั้งภายในและภายนอก ตัวตู้จะต้องสะอาด ไม่สกปรก ทำจากวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน ไม่ผุกร่อนหรือเป็นสนิม จุดติดตั้งต้องมีความสะอาดโดยรอบ ตั้งอยู่บนพื้นที่เหมาะสมต้องไม่ตั้งอยู่ใกล้สถานที่ทิ้งขยะหรือสิ่งปฏิกูล ช่องรับน้ำภายในตู้ต้องสะอาด มีฝาปิดมิดชิด ไม่เป็นคราบสกปรก ปราศจากฝุ่นละอองและคราบอื่นใด หัวจ่ายน้ำต้องเป็นวัสดุที่เหมาะสม เช่น สแตนเลส ไม่ควรเป็นท่อพลาสติกหรือสายยาง และที่สำคัญต้องสะอาดไม่เป็นตะไคร่หรือมีสิ่งสกปรกบริเวณหัวจ่ายน้ำ สังเกตสี กลิ่นและรสชาติของน้ำ จะต้องไม่ผิดปกติจากที่เคยใช้เป็นประจำ ด้านหน้าของตู้ต้องติดฉลากแสดงการแนะนำการใช้งาน รวมทั้งมีสติ๊กเกอร์การตรวจรับรองที่มีมาตรฐานที่น่าเชื่อถือ และต้องร

      ตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ เป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประเภทที่ 3 (15) ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เจ้าของหรือผู้ให้บริการตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญที่จะต้องมายื่นขอรับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ถูกต้อง หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

โรคหลอดเลือดสมอง

      โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต คือ ภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงทำให้เกิดอาการ ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด แขนขาข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรงหรือชา ที่เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด ถือเป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ตามสาเหตุของการเกิด คือ โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน และโรคหลอดเลือดสมองแตก ซึ่งโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตันพบประมาณร้อยละ 70–75 ของโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมด


      อาการของโรคจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่มีการแตกของหลอดเลือด และตำแหน่งที่ลิ่มเลือดอยู่ โดยอาจจะมีสาเหตุมาจากความดันโลหิตสูงที่ควบคุมได้ไม่ดี หรือในผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของผนังหลอดเลือดทำให้มีหลอดเลือดโป่งพองจนเกิดการแตก เมื่อมีเลือดออกในสมอง จะทำให้เกิดการกดเบียดเนื้อสมองข้างเคียง หรือทำให้การไหลเวียนเลือดในสมองผิดปกติ


      อาการปวดศีรษะรุนแรง อาเจียนพุ่ง ความรู้สึกตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากรักษาช้า อัตราความพิการหรือเสียชีวิตก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น


      โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต สามารถป้องกันได้ด้วยการควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และสังเกตอาการโดยใช้วิธีการจดจำอย่างง่ายจากอักษรย่อ “F.A.S.T.” ซึ่ง F = Face มุมปากตกหนึ่งข้างเวลาอยุ่เฉยๆหรือเวลายิ้ม A = Arms ยกแขนไม่ขึ้นหรืออ่อนแรง 1 ข้าง S = Speech ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด พูดไม่ได้หรือฟังไม่รู้เรื่อง T = time ผู้มีอาการดังกล่าวต้องรีบไปโรงพยาบาลภายในเวลา 4 ชั่วโมงครึ่งหรือโดยเร็วที่สุด



เห็ดพิษ

      ช่วงนี้ก็เข้าสู่ฤดูฝน เริ่มมีเห็ดขึ้นตามธรรมชาติจำนวนมาก มีทั้งเห็ดกินได้และกินไม่ได้ ซึ่งคือ “เห็ดพิษ” แต่กลับมีลักษณะใกล้เคียงกับเห็ดที่กินได้

เห็ดระโงกพิษ

เห็ดระโงกขาว

      เห็ดที่เป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตส่วนใหญ่ คือ เห็ดระโงกพิษ บางแห่งเรียกว่า เห็ดระโงกหิน เห็ดระงาก หรือเห็ดไข่ตายซาก ซึ่งเห็ดชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มเห็ดที่มีความคล้ายคลึงกับเห็ดระโงกขาว หรือไข่ห่านที่สามารถกินได้ แต่มีข้อแตกต่างที่สำคัญคือ เห็ดระโงกพิษ จะมีก้านสูงกลางดอกหมวกจะนูนเล็กน้อย มีกลิ่นเอียนและค่อนข้างแรง

      ทั้งนี้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่ใช้ทดสอบความเป็นพิษของเห็ด เช่น การจุ่มช้อนเงินลงไปในหม้อต้มเห็ด การนำไปต้มกับข้าวสาร เป็นต้น วิธีเหล่านี้ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการอ้างอิงในการใช้ทดสอบพิษกับเห็ดกลุ่มนี้ได้ โดยเฉพาะเห็ดระโงกพิษที่มีสารที่ทนต่อความร้อน แม้จะปรุงให้สุกแล้ว เช่น ต้ม แกง ก็ไม่สามารถทำลายสารพิษนั้นได้

      สำหรับอาการหลังจากกินเห็ดพิษแล้ว จะทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรือถ่ายอุจจาระเหลว ในช่วงวันแรก แต่หลังจากนั้นผู้ป่วยอาจมีอาการรุนแรงตามมาคือ การทำงานของตับและไตล้มเหลว ทำให้เสียชีวิตได้ สำหรับการช่วยเหลือผู้ป่วยที่กินเห็ดพิษเบื้องต้น ให้ผู้ป่วยอาเจียนเอาเศษอาหารที่ตกค้างออกมาให้มากที่สุด โดยการล้วงคอ หรือกรอกไข่ขาวจากนั้นรีบนำผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันที



วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

แมงกะพรุนกล่อง

      แมงกะพรุนกล่อง เป็นแมงกะพรุนชนิดที่มีพิษรุนแรง จะมีลักษณะโปร่งใสรูปร่างเป็นทรงสี่เหลี่ยม มีหนวดยื่นออกมาในแต่ละมุม และหนวดอาจยาวพอกับความสูงของคน แมงกะพรุนกล่องแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ชนิดที่มีหนวดเพียงเส้นเดียวในแต่ละมุม หรือชนิดที่มีหนวดหลายเส้นในแต่ละมุม ซึ่งกลุ่มนี้มีหนวดรวมๆ แล้ว ประมาณ 12-15 เส้น


      ซึ่งกะเปาะพิษจะอยู่ที่สายหนวด หนึ่งตัวอาจมีกะเปาะพิษถึงล้านถุง ทำให้แมงกะพรุนกล่องจัดเป็นสัตว์ทะเลที่มีพิษร้ายแรงที่สุด ซึ่งพิษของแมงกะพรุนกล่องมีฤทธิ์ 3 ด้าน คือ

            1.ทำให้เซลล์ผิวหนังตาย

            2.มีอาการปวดรุนแรง

            3.หากได้รับพิษในปริมาณมาก และพิษเข้าสู่กระแสเลือดและจะเข้าสู่หัวใจ ทำให้หัวใจหยุดเต้นและระบบหายใจล้มเหลว อาจเสียชีวิตได้ภายใน 2-10 นาที

      สำหรับขั้นตอนการปฐมพยาบาลผู้ที่สงสัยถูกแมงกะพรุน ดังนี้

            1.เรียกให้คนช่วยหรือเรียกรถพยาบาล (โทร 1669) แต่ห้ามทิ้งให้ผู้บาดเจ็บอยู่ตามลำพัง เพราะอาจหมดสติภายในเวลาไม่กี่นาที

            2.ให้ผู้บาดเจ็บอยู่นิ่งๆ

            3.ห้ามขัดถูหรือราดน้ำจืดบริเวณที่ถูกแมงกะพรุน

            4.ราดน้ำส้มสายชูบริเวณที่มีร่องรอยจากการสัมผัสแมงกะพรุนให้ทั่วนานอย่างน้อย 30 วินาที

            5.ถ้าผู้ป่วยหมดสติและไม่มีชีพจร ให้ปั๊มหัวใจก่อน โดยไม่ต้องรอราดน้ำส้มสายชู

      **สามารถโทรขอคำปรึกษาได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422



แมลงวันตา

      แมลงวันตา หรืออาย ฟลาย (eye fly) เป็นแมลงขนาดเล็กประมาณ 1 - 2 มิลลิเมตร มีสีดำ


      แมลงวันตาจะออกหากินในเวลากลางวัน พอพระอาทิตย์ตกดินก็จะหยุด ตอนกลางคืนจะเกาะอยู่ตามสิ่งห้อยแขวนทำให้มองเห็นสีดำเต็มไปหมด

      พบว่าแมลงวันตาไม่ทำร้ายคนโดยการกัด แต่จะดูดกินสารคัดหลั่งจากคน และสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว วัว เป็นต้น ส่วนแผลที่แมลงวันตาเข้ามาดูดกินเลือด และน้ำเหลือง จะเป็นแผลเรื้อรัง รักษาไม่หายขาด หากเป็นช่วงที่มีการระบาดของโรคตาแดง แล้วแมลงวันชนิดนี้ไปกินสารคัดหลั่งที่ลูกนัยน์ตาของคนป่วย แล้วไปเกาะกินสารคัดหลั่งจากคนอื่นๆ อีก ก็อาจจะทำให้โรคตาแดงระบาดได้

      จากสิ่งห้อยแขวนที่มัน เกาะอยู่ พบแบคทีเรียทั้งหมด 64 ชนิด ซึ่ง 36 ชนิดเป็นแบคทีเรียชนิดที่มีความเสี่ยงในการก่อโรคในระดับที่ 2 ตามประกาศของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งปกติแบคทีเรียก่อโรคจะมีระดับความเสี่ยงอยู่ 4 ระดับ ระดับ 4 เสี่ยงสูงสุดแล้ว ลดหลั่นลงไป แต่แบคทีเรียที่พบในแมลงวันตาอยู่ในระดับที่ 2 เช่น เอนเทอโรค็อกคัส สูโดโมนาส สแต็ปโตค็อกคัส สแต็ปฟิโลค็อกคัส



วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

แมลงกระเบื้อง

      แมลงกระเบื้องจัดเป็นด้วงปีกแข็งขนาดเล็กชนิดหนึ่งที่อยู่ในวงศ์เดียวกันกับ ด้วงมอดแป้ง มีลำตัวกลมรี ตลอดลำตัวมีสีน้ำตาลเข้มจนถึงดำและเปลือกค่อนข้างแข็ง ชอบอาศัยอยู่ตามพื้นดินในที่ต่างๆ เช่น ใต้ไม้ผุๆ ใต้ก้อนหิน ตามรังมด รังปลวก อยู่ตามต้นพืชหลายชนิด หรืออยู่ตามบ้านเรือน ตามกองใบไม้ทับถม และตามที่ที่มีเชื้อราขึ้น บางทีอาจพบอยู่ตามซากสัตว์เน่าเปื่อย ตัวหนอนของด้วงชนิดนี้สามารถเดินได้ เร็วและชอนไชเก่งมาก ชอบดินชื้นๆ ทั้งระยะตัวหนอนและระยะตัวแก่จะออกหาอาหารในเวลากลางคืน


      นอกจากนี้ยังสามารถนำโรคอาหารเป็นพิษ 2 ชนิด ได้แก่เชื้ออีโคไล( Escherichia coli) ซึ่งพบในอุจจาระแหล่งสกปรกและเชื้อซาลโมเนล่า (Salmonella sp.) มาสู่คนได้ เชื้อโรคจะติดมาตามขาและลำตัวของมัน หากปนเปื้อนในอาหารหรือน้ำดื่มของคน จะทำให้ป่วยได้




x

แมลงก้นกระดก

      แมลงก้นกระดก หรือ ด้วงก้นกระดก หรือ แมลงเฟรชชี่ เป็นแมลงขนาดเล็ก ขนาดประมาณ 7-8 มม. ส่วนหัวมีสีดำ ปีกสีน้ำเงินเข้ม และส่วนท้องมีสีส้ม ชอบงอส่วนท้ายกระดกขึ้นลง ทำให้ได้ชื่อว่าแมลงก้นกระดก เป็นแมลงที่พบเฉพาะในเขตร้อนชื้น โดยมากอาศัยบริเวณพงหญ้าที่มีความชื้น ใกล้หนองน้ำ ชอบออกมาเล่นไฟและแสงสว่างตามบ้านเรือน ทำให้พบว่ามันจะลอดมุ้งลวดเข้ามาได้


      สำหรับผู้ที่โดนพิษแมลงก้นกระดก เมื่อโดนแล้วจะมีอาการปวดแสบปวดร้อน และมีผื่นแดงตามผิวหนัง ผื่นที่เกิดจากแมลงชนิดนี้ ไม่ได้เกิดจากการที่มันกัดหรือต่อย แต่เกิดจากการที่ไปโดนแล้วบี้ทำให้สารเคมีในตัวแมลงชื่อ paederin ออกมาทำให้ผิวหนังบริเวณที่สัมผัสไหม้




วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ซิริอุส 2

      คนสมัยก่อนรู้ได้ยังไงว่าตอนนี้เข้าฤดูการอะไร?  หรือแบ่งฤดูการกันอย่างไร?  จริงๆแล้วบางคนอาจบอกว่า ก็ช่วงไหนร้อน ก็ฤดูร้อนไง ฝนตกเยอะๆ ติดๆกัน ก็ฤดูฝน  หรือ อากาศเย็นก็ฤดูหนาว แต่มันก็ไม่แน่นะ บางเขตของโลก อาจจะไม่เหมือนกัน แต่ก็มีสิ่งที่เหมือนกัน ก็คือ ดวงดาว การขึ้นหรือตำแหน่งของดาว เป็นตัวบ่งบอกเราได้


      ดาวซิริอุส ก็เป็นดวงดาวหนึ่งบนฟากฟ้าที่บอกหลายๆอย่างกับคนสมัยก่อน เช่น การเดินเรือ การบอกว่าเข้าฤดูหนาวแล้ว หรือบอกว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวอียิป เป็นต้น


      การดูว่าเข้าฤดูหนาวแล้ว จะดูในช่วงหัวค่ำของฤดูหนาว จะมีกลุ่มดาวสว่างอยู่ทางทิศตะวันออก คือ กลุ่มดาวนายพราน กลุ่มดาวสุนัขใหญ่ และกลุ่มดาวสุนัขเล็ก หากลากเส้นเชื่อม ดาวบีเทลจุส (Betelgeuse) ดาวสว่างสีแดงตรงหัวไหล่ของนายพรานไปยัง ดาวซิริอุส (Sirius) ดาวฤกษ์สว่างที่สุดสีขาว ตรงหัวสุนัขใหญ่  และ ดาวโปรซีออน (Procyon) ดาวสว่างสีขาวตรงหัวสุนัขเล็ก  จะได้รูปสามเหลี่ยมด้านเท่า เรียกว่า “สามเหลี่ยมฤดูหนาว” (Summer Triangle)



วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ซิริอุส

      ซิริอุส เป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดดวงนึงเลยทีเดียว ซื่งคนไทยเองรู้จักกันในชื่อ ดาวโจร อายุของดาวนี้ก็น่าจะประมาณ 200 - 300 ล้านปีมาแล้ว แต่เดิมมีดาวสีน้ำเงินประกอบกัน 2 ดวง โดยดวงที่มีมวลมากกว่า เรียกว่า ซิริอุสบี และมันได้เผาผลาญพลังงานจนหมด กลายเป็นดาวเคราะห์แดงใหญ่ จากนั้นก็หดตัวกลายเป็นดาวแคระขาวเมื่อ 120 ล้านปีที่ีแล้วจนถึงปัจจุบัน


      ซิริอุส เป็นดาว รู้จักกันมานาน เมื่อยุคอียิป ก็ใช้การดูดาวซิริอุส ที่ส่องสว่างก่อนแสงแรกของดวงอาทิตย์ นั่นถือว่าวันนั้นเป็นวันปีใหม่ของชาวอียิป


      ซิริอุส มีดาวประกอบกันเป็นกลุ่มทั้งหมด 8 ดวง เรียกกันว่า กลุ่มดาวสุนัขใหญ่ และเจ้าดาวดวงนี้ก็มีวงโคจรห่างจากดวงอาทิตย์ของเราเพียง 2.6 พาร์เซก (ประมาณ 8.6 ปีแสง) มันจึงถือว่าเป็นกลุ่มดาวเพื่อนบ้านที่มีวงโคจรใกล้สุดด้วย และมีมวลเป็น 2 เท่าของดวงอาทิตย์

   

วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Infrared

      ในปี ค.ศ. 1800จากการทดลองโดยทดสอบว่าในเลนส์แต่ละสี จะเปลี่ยนค่าแสดงความร้อนของดวงอาทิตย์หรือไม่ โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ คือ Sir William Herschel


      Infrared (IR) หรือเรียกกันว่า คลื่นใต้แดงหรือ คลื่นรังสีความร้อน เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่มีความยาวคลื่นอยู่ระหว่างคลื่นวิทยุและแสง สำหรับคุณสมบัติเฉพาะตัวของรังสีอินฟราเรด ก็เช่น ไม่เบี่ยงเบนในสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ที่แตกต่างกันก็คือ คุณสมบัติที่ขึ้นอยู่กับความถี่ คือยิ่งความถี่สูงมากขึ้น พลังงานก็สูงขึ้นด้วย


      ส่วนการนำมาใช้งานก็ได้นำไปใช้งานในหลายๆด้าน เช่น

            1. กล้องถ่ายภาพตอนกลางคืน และกล้องอื่นๆที่ใช้ตอนกลางคืน

            2. ใช้ในทางทหาร เช่น จรวดติดตาม

            3. เครื่องกำเนิดความร้อนที่ใช้ทั่วไป เช่น เตาอินฟราเรดที่ใช้ปรุงอาหาร

            4. ใช้ในด้านอิเล็กทรอนิกส์ เช่น รีโหมดคอนโทรล

            5. ใช้ในการการรักษา เช่น การปรคบร้อนในการทำกายภาพบำบัต

      ข้อดี

            1. สามารถเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ได้ง่าย

            2. ไม่ต้องติดตั้งสัญญาณ

      ข้อเสีย

            1. ต้องไม่มีสิ่งใดมากีดขวางเส้นสายตาของทั้งเครื่องรับและเครื่องส่ง

            2. ระยะทางในการส่งข้อมูลสั้น




วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Veil Nebula

      เนบิวลา เป็นภาพที่ดูกี่ทีก็รู้สึกตื่นตา และ Veil Nebula ก็เป็นเนบิวลาที่สวยมากอีกเนบิวลา ซึ่งเนบิวลานี้ นาซ่าได้ค้นพบและถ่ายภาพด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล เมื่อปี 2558


      เนบิวลานี้เกิดจากการระเบิดของดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ของเราประมาณ 20 เท่า เมื่อราว 8000 ปีที่ผ่านมา และมันยังคงทิ้งกลุ่มก๊าซให้เราได้เห็น


      "วีล เนบิลลา" (Veil Nebula) หรือ เนบิวลาผ้าคลุม เป็นกลุ่มฝุ่นผงและกลุ่มก๊าซรวมตัวกันในสีสันต่าง ๆ อย่างงดงามตระการตากลางท่ามกลางผืนอวกาศอันมืดมิด (ลักษณะของมันดูแล้วคล้ายผ้าคลุมยับๆ จึงได้ชื่ีอนี้)  ส่วนสีสันที่มองเห็นเกิดจากก๊าซชนิดต่าง ๆ อาทิ สีแดงจากก๊าซไฮโดรเจน สีเขียนจากก๊าซซัลเฟอร์ สีน้ำเงินจากก๊าซออกซิเจน เป็นต้น


      ตำแหน่งของมันอยู่แถวๆดาวซิกนัส หรือ ดาวหงษ์


วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Microwave สู่เตาอบ

      ไมโครเวฟ คนเรียกติดปากเพราะเป็นสิ่งหนึ่งที่หนีไม่ได้ของสังคมเมือง ซื่งเกิดจากการนำคุณสมบัติของคลื่นไมโครเวฟมาใช้ทำให้อาหารสุก แล้วมันทำให้สุกได้อย่างไร ก่อนอื่นก็ย้อนมาดูลักษณะของคลื่นและคุณสมบัติหลักก่อน ไมโครเวฟ สามารถหักเหได้ สะท้อนได้ กระจายได้ และมีคุณสมบัติคือ

            1. การสะท้อนกลับ เมื่อมันกระทบกับโลหะ มันจะสะท้อน

            2. การส่งผ่าน เมื่อมันกระทบกับวัสดุที่เป็นแก้ว พลาสติก กระดาษ เซรามิก มันจะทะลุผ่านได้

            3. การดูดซับ เมื่อมันกระทบกับน้ำมันจะถูกดูดซับ และจะแปลสภาพเป็นพลังงานความร้อน จากการที่คลื่นไปทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของโมเลกุลแล้วโมเลกุลเหล่านั้นเสียดสีกัน


      จากคุณสมบัติดังที่กล่าวมาแล้ว ก็เกิดการนำมาใช้งานด้านการทำอาหาร นั่นก็คือ เตาไมโครเวฟ
“แม็กนิตรอน” ที่จะเป็นตัวเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นคลื่นไมโครเวฟ และจะสะท้อนจากผนังเตาและกระจายไปทั่วทุกทิศ พร้อมกันจานหมุนที่จะหมุนให้อาหารได้รับคลื่นไมโครเวฟจากทุกด้านอย่างทั่วถึง จึงทำให้อาหารสุกได้ทั่ว




วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Microwave

      Microwave เป็นคลื่นวิทยุที่มีช่วงความถี่กว้างมาก โดยปกติจะอยู่ระหว่าง 0.3GHz จนถึง 300 GHz แต่ในการใช้งานจริงเราจะใช้กันที่ 1GHz ถึง 60GHz เพราะผลิตได้จากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์


      ลักษณะของคลื่นไมโครเวฟ จะเดินทางเป็นเส้นตรง หักเหได้ สะท้อนได้ แตกกระจายได้ และมันสามารถถูกลดทอนได้จากชั้นบรรยากาศและฝน

     คลื่นไมโครเวฟ ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายในหลายๆด้าน อาทิเช่นดังนี้

      1. ใช้งานด้านงานสื่อสารโทรคมนาคม เช่น โทรศัพท์ทางไกล . การส่งสัญญาณโทรทัศน์

      2. ระบบดาวเทียม

      3. ระบบเรด้า

      4. ระบบเตาไมโครเวฟ



      ไมโครเวฟ มีผลอย่างไรกับร่างกายมนุษย์บ้าง ในเมื่อใช้อย่างแพร่หลาย จริงๆแล้วก็มีผลไม่น้อยหากได้รับคลื่นโดยตรงกับร่างกายในระดับที่มีความเข้มของสัญญาณมากๆ เช่นมากกว่า 100 มิลลิวัตย์/ตารางเซนติเมตร เป็นเวลานาน ก็อาจจะทำให้เซลล์บริเวณนั้นเกิดความเสียหายได้  หรือเซลล์บริเวณนั้นอาจตายได้ แล้วผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ก็คือ

      1. ผลต่อเลนส์ตา ทำให้เลนส์ตาระบายความร้อนได้น้อย อาจเป็นต้อกระจก

      2. ผลต่อเชื้ออสุจิ อาจทำให้เชื้ออสุจิตาย เชื้ออสุจิผิดปกติ และกลายเป็นหมันชั่วคราว

      3. ผลต่อศีรษะ ทำให้มีอาการปวดศีรษะ มึนงง หรือเมื่อยล้า

      4. ผลต่อหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดจังหวะ

      5. ผลต่อกระดูก ทำให้กระดูกผิดรูปร่าง โดยเฉพาะกระดูกที่กำลังเจริญพัฒนา






วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เปรียบเทียบ Sensor วัดความชื้น

      ช่วงนี้มีโปรเจ็คใหม่อีกแล้วครับ เนื่องด้วยสารเคมีที่เก็บจำเป็นต้องคอยตรวจสอบความชื้นและอุณหภูมิอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากไม่ได้ตามค่าที่กำหนด อาจจะทำให้สารเคมีเสียหายได้ จึงต้องมาหาสเปคของ Sensor วัดอุณหภูมิและความชื้นกันสิ

      จากข้อมูลที่มี ก็เอามาใส่ตารางเทียบกันได้ตามนี้


เปลี่ยนแบตฯให้กับ Tablet

      หลังจากที่เปลี่ยนแบตให้กับเจ้า HTC Desire816 กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คราวนี้ได้ใจเลย ทดลองกันอีกกับการเปลี่ยนแบตให้กับ Tablet เก่าอีกเครื่อง นั่นคือ Samsung Galaxy 7.0 Plus ซึ่งแบตเสื่อมครับ ใช้แพล๊บเดียวหมด




      ส่วนแบตที่ใช้ก็สั่งมาเรียบร้อยแล้วครับ รุ่นที่ใช้ก็ SP4960C3B 4000mAh เลยครับ ทีนี้ขั้นตอนล่ะ ก็นั่งงงกันอยู่พักนึงเลย เพราะแงะยังไงก็ไม่ออกครับ (ฉลาดแงะผิดที่ผิดทาง)

      1. เริ่มด้วยการแงะเช่นเคย แต่คราวนี้ไม่ได้แงะขอบข้างแบบ HTC แล้วครับ ซึ่งต้องแงะที่ขอบจอครับ ตรงรอยต่อระหว่างขอบกระจกจอกับขอบข้างของเครื่อง



      2. จากรูปด้านบนเราก็จะต้องขันสกูรจำนวน 6 ตัวที่ล็อคแบตไว้

      3. เสร็จแล้วก็ใส่แบตกลับเข้าที่เดิม ด้วยการกด Connector ของแบตเตอรี่ ให้แน่นก่อน แล้วก็ขันสกูรทั้ง 6 ตัว

      4. สุดท้ายก็นำฝาหลังมาประกบกับตัวเครื่องแล้วกดตามขอบให้ลงล็อคโดยรอบ เป็นอันเสร็จ

      ** นี่คือรูปแบตเตอรี่เทียบให้เห็นแบตเตอรี่เก่าและใหม่



      ** ข้อควรระวังตอนแซะขอบ


      ใจเย็นๆครับ เพราะอาจจะพลาดโดนแจ๊คเสียบสายหูฟังจนเสียหายได้ กว่าจะกู้กลับมาให้ใช้ได้ นั่งดัดอยู่นานเลย



วันพุธที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เปลี่ยนแบต htc desire 816

      พอดีเคยเห็นน้องที่แผนกเปลี่ยนแบตเตอรี่มือถือ และ นู่นนี่นั่นเอง พอดีเจ้าสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าที่เอาไว้ฟังเพลงก่อนนอนดันมีอาการแบตโป่งบวมจนเปลือกด้านหลังโก่งออกมา แล้วเราจะเปลี่ยนเองบ้างได้หรือป่าน๊า. ว่าแล้วก็ลองแงะเลยแล้วกัน งานแงะลื้อนี่ไม่ยาก


      เมื่อสั่งซื้อแบตได้มาแล้ว ก็ตามนี้ครับ

      1. ใช้ที่แซะฝาหลังออกมา
         

      2. ดึงขั้วแบตออกมาได้เลย เพราะขั้วต่อเป็นแบบกดเข้าไปเฉยๆไม่มีสลัก
         

      3. นำแบตใหม่ที่ได้มาใส่ เริ่มจากกดเจ้าขั้วต่อลงไปก่อน แล้วจับแบตใส่ลงไปในกรอบให้เรียบร้อย ซึ่งมันพอดีมากๆ (ของเดิมเค้าจะติดเทปสองหน้ามาทั้งดานที่ติดกับตัวเครื่องและด้านที่ติดฝาหลัง เราจะติดหรือไม่ก็ได้)
         

      4. นี่ไง ใส่แบตเข้าไปแล้ว เสมอขอบพอดีเป๊ะ
         

      5. จากนั้นประกบฝาหลังเข้าที่เดิม กดให้แน่น เป็นอันเสร็จ
         

วันเสาร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2560

OLED 0.96" I2C 128x64 LCD LED Display

      จาก Blog ที่แล้ว ได้พูดถึงการนำค่าที่ได้จาก Sensor DHT ออกมาแสดงทางหน้าจอ ซึ่งหน้าจอที่ใช้ก็คือ OLED 0.96" I2C 128x64 LCD LED Display
      รายละเอียดขอจอก็ตามนี้เลย

  • Needn't backlight, the display unit can self-luminous
  • High resolution: 128 * 64
  • Viewing angle:> 160 °
  • Supports many control chip: Fully compatible with Arduino, 51 Series, MSP430 Series, STM32 / 2, CSR IC, etc.
  • Ultra-low power consumption: full screen lit 0.08W
  • Voltage: 3V ~ 5V DC
  • Working Temperature: -30 ? ~ 70 ?
  • Module Size: 27.0MM * 27.0MM * 4.1MM
  • I2C/IIC Interface, need 2 IO only.
  • Driver IC: SSD1306
  • white color
  • I2C address 0x3C

      ส่วน Library ก็โหลดได้ตามนี้ครับ

  1. http://www.adafruit.com/products/326
  2. https://github.com/adafruit/Adafruit-GFX-Library
  3. https://github.com/adafruit/Adafruit_SSD1306


DHT11

      เมื่อต้นอาทิตย์ที่ผ่านมา มีปัญหาเกี่ยวกับปั๊มน้ำพัดลงไอเย็นที่โรงงานไม่ทำงาน ก็มีการตั้งข้อสมมุติฐานกันว่า ค่าที่ได้จาก Sensor วัดความชื้นที่เป็นเงื่อนไขให้ปั็มน้ำทำงาน ให้ค่าที่ผิดเพี้ยนไป



      จึงมีการขอยืมของเล่นที่ทำไว้นานละมาทดสอบเทียบเคียงค่า ก็คือเจ้า DHT ที่ต่อกับหน้าจอ TFT ใช้บอร์ดประมวลผลด้วย Arduino D1 และเมื่อจะต้องนำไปใช้งานจริง ก็ต้องปรับเปลี่ยนโปรแกรมนิดหน่อย โดยให้แสดงค่าที่ได้จาก Sensor ออกมาที่หน้าจอเลย แทนที่จะแสดงรูป หรือข้อความ Help Me!!! จาก Blog ที่เคย Post ไว้นานแล้ว

     คราวที่แล้วก็มีการแสดงให้เห็น Code บางส่วนแล้ว แต่ยังไม่ได้บอกที่มาของ Library ที่สำคัญเลย ก็คือ DHT.h แล้วจะโหลด Library ได้ที่ไหน ก็ตามนี้เลยครับ https://github.com/adafruit/DHT-sensor-library


วันอังคารที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2560

ดู process ที่กำลังทำงานบน Linux

.     จากโปรเจ็คที่ได้รับมอบหมาย มีความจำเป็นต้องเช็ค process ที่กำลังทำงานอยู่ เพื่อตรวจสอบว่าทำไมไม่มีการตอบสนองมาจาก Node ที่สร้างไว้ ว่าแล้ว จะใช้คำสั่งอะไร เพื่อให้รู้ว่า สิ่งที่เราสร้างไว้ และสั่งให้ทำงาน มันยังคงทำอยู่หรือไม่

      ก็ต้องใช้คำสั่ง PS ซึ่งมันจะแสดง process หรือ program ที่กำลังทำงานอยู่ในขณะนั้น

      ซึ่งแน่นอน คำสั่งนี้ก็มีส่วนขยาย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับตัวคำสั่งหลัก คือ

      ps -ef   : แสดงข้อมูลของ process โดยละเอียด

      ps -ax   : แสดงข้อมูลของ process พร้อมชื่อโปรแกรมที่รันได้

      ps -aux   : แสดงข้อมูลของ process พร้อมชื่อโปรแกรมที่รันได้ พร้อมบอกชื่อผู้สั่งด้วย

      ps -aux | grep Node   : ตรวจสอบว่า Node เชื่อมต่อไปที่ใดขณะนี้

     และด้านล่างก็จะเป็นตัวอย่างหน้าจอที่ได้จากคำสั่งนี้