วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

Raspberry Pi ไม่สามารถ Login เข้า X-Windows ได้ (ถามซ้ำๆ)

     หลังจากลองต่อจอ TFT แล้วพยายามใช้คำสั่งนู้น โหลดนู่นนี่นั่นเพื่อให้แสดงออกจอทั้ง HDMI และ TFT แต่ลืมนึกถึงว่าพื้นฐานคืออะไร แต่กลับทำตามโดยไม่คิด ผลที่ได้คือ Login เข้า X-Windows ไม่ได้น่ะสิ มันขึ้นหน้าให้ Login วนไป แต่เราสามารถกด Ctrl+Alt+F6 เพื่อเข้า Command Line Mode ได้ และสามารถ putty เข้าไปได้นะ แต่อยากจะใช้ X-Windows อ่ะ เพราะตอน boot ขึ้นมา ไม่แน่ว่าจะได้ IP เดิม จำเป็นต้องต่อจอแล้วดูว่าได้ IP อ่ะไรก่อน (ความรู้ยังน้อยไปป่าวนะ 5555)

     จากนั้นทดลองแก้ไขเบื้องต้น หลายอย่างแบบโง่ๆ ขนาดลองเปลี่ยน Password ของ Pi ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวข้อง เพราะมัน Login ผ่าน แต่ Start X-Window ไม่ได้นี่

     นึกได้ว่าต้องลองหา Log ดูก่อน ก็นึกต่อ แล้ว Log มันเก็บที่ไหนนะ อ้อเพิ่มอ่านมาว่ามันอยู่ใน /var/log ตามโครงสร้างไฟล์ของ Linux งั้นก็ลองเข้าไปดู ....จี๋ย! แล้ว Log ที่เก็บมีเยอะอ่ะ หลายไฟล์ อันไหนเกี่ยวข้องกัน ก็นี่เลย Xorg.log เข้าไปดูก็เจอจุดที่มีปัญหาประมาณนี้

[   246.561] (WW) The directory "/usr/share/fonts/X11/misc" does not exist.
[   246.561]    Entry deleted from font path.
[   246.561] (WW) The directory "/usr/share/fonts/X11/cyrillic" does not exist.
[   246.561]    Entry deleted from font path.
[   246.561] (WW) The directory "/usr/share/fonts/X11/75dpi/" does not exist.
[   246.561]    Entry deleted from font path.
[   246.561] (WW) The directory "/usr/share/fonts/X11/Type1" does not exist.
[   246.561]    Entry deleted from font path.
[   246.561] (WW) The directory "/usr/share/fonts/X11/75dpi" does not exist.
[   246.561]    Entry deleted from font path.
[   246.781] (WW) VGA arbiter: cannot open kernel arbiter, no multi-card support

     คราวนี้จะแก้ไขยังไงล่ะ? ก็ต้องพี่ goo ช่วยได้ หลังจากค้นหาไปมา ก็เจอคำตอบในกระทู้ครับ เฮ้ย ตรงเลย ตามนี้ครับ
How to fix
Without knowing what exactly the problem is, here are some actions which might help:
  • reset permissions on your home folder: sudo chown -R pi /home/pi. (Specifically, the .Xauthority file may have the incorrect permissions. In this case, you may only need sudo chown pi:pi .Xauthority to correct the issue.)
  • reinstall your login manager and desktop environment. Use dpkg --purge to remove packages completely, including configuration files (you might want to back up files you have modified), then reinstall the packages back.
     เพราะจากอาการ และข้อมูลที่ได้จาก Log มันบอกว่าไม่มี เปิดไม่ได้ ก็น่าจะมีส่วนที่มาจาก สิทธิในการเข้าถึงไฟล์ด้วยเหมือนกัน ไม่เสียหายนี่ ลองกำหนดสิทธิ ตามที่เค้าบอกมาดูหน่อย 

          หมายเหตุ จากคำสั่ง chown เป็นการเปลี่ยเจ้าของไฟล์ โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติมคือ -R เป็นการบอกว่า เราจะเปลี่ยนเจ้าของไฟล์ทุกไฟล์ในโฟลเดอร์ย่อย จากคำสั่ง เราจะเปลี่ยนไฟล์ทั้งหมดใน /home/pi ให้เจ้าของเป็น pi 

จากนั้นก็ลอง Reboot ดู ผลปรากฏว่าได้ครับ มันกลับมาแล้ว 555



วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

Raspberry Pi 4 น่าใช้มาก


Raspberry Pi 4 มาแล้วครับ!!!
ผมรอมาพักนึงละว่าจะมีรุ่นใหม่ออกมาเมื่อไหร่ และก็เพิ่งมีโอกาสเปิดดู Specs ในเว็บ https://www.raspberrypi.org/magpi/raspberry-pi-4-specs-benchmarks/

ตัวนี้น่าสนใจจริงนะ และมันแรงขึ้นถึง 4 เท่าโดยประมาณ ซึ่งข้อมูลสเปคก็ตามนี้ครับ

Raspberry Pi 4 specs

SoC: Broadcom BCM2711B0 quad-core A72 (ARMv8-A) 64-bit @ 1.5GHz
GPU: Broadcom VideoCore VI
Networking: 2.4 GHz and 5 GHz 802.11b/g/n/ac wireless LAN
RAM: 1GB, 2GB, or 4GB LPDDR4 SDRAM
Bluetooth: Bluetooth 5.0, Bluetooth Low Energy (BLE)
GPIO: 40-pin GPIO header, populated
Storage: microSD
Ports: 2 × micro-HDMI 2.0, 3.5 mm analogue audio-video jack, 2 × USB 2.0, 2 × USB 3.0, Gigabit Ethernet, Camera Serial Interface (CSI), Display Serial Interface (DSI)
Dimensions: 88 mm × 58 mm × 19.5 mm, 46 g

สำหรับ CPU จากเดิมใช้ Cortex-A53 เปลี่ยนเป็น Cortex-A72 และผลการเปรียบเทียบที่ได้มาตามนี้ครับ

Raspberry Pi 4 speed test

RAM เราสามารถเลือกซื้อได้ว่าจะเอา RAM เท่าไหร่ดี โดยมี 1GB , 2GB และ 4GB

RAMRetail price
1GB$35
2GB$45
4GB$55

ช่องเสียบสำหรับไฟฟ้าเลี้ยงบอร์ดได้เปลี่ยนจาก USB Type-B เป็น USB Type-C ครับ รองรับกระแสไปได้มากขึ้นอีก 500mA มั่นใจได้ว่าจ่ายไฟได้ถึง 1.2A



Video Connector มีมาให้ 2 Port สำหรับต่อ 2 หน้าจอเลย คือ HDMI Type-A (Full Size) และ HDMI Type-D (Micro)



มีช่องต่อ Gigabit Ethernet 1 ช่อง และ USB 2.0 และ USB 3.0 อย่างละ 2 ช่อง




ที่มา : https://www.raspberrypi.org/magpi/raspberry-pi-4-specs-benchmarks/ และ https://www.raspberrypi.org/blog/raspberry-pi-4-on-sale-now-from-35/

วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

RFID กับ Arduino

          ห่างหายจากการเขียน Blog ไปนาน และจากที่ซื้อ module นี้มานานแล้ว แต่ไม่ได้ลองเล่นซะที วันนี้ลองดูหน่อย ก่อนอื่นก็ลองอ่านเรื่อง RFID ก่อนว่ามันเป็นอย่างไร ก็คร่าวๆตามนี้

          RFID (Radio Frequency Identification) เป็นเทคโนโลยีเก็บข้อมูลโดยใช้คลื่นวิทยุ เพื่อใช้ระบุตัวตน ด้วยการเขียนหรืออ่านข้อมูลด้วยเครื่องอ่านหรือเขียนลงบนบัตร ซึ่งมันสามารถเก็บข้อมูลได้โดยไม่ต้องใช้พลังงาน


          บัตร RFID หรือ แท็ก RFID จะแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่ใช้เก็บข้อมูลและส่วนที่เป็นเสาอากาศ เมื่อมีการส่งสัญญาณวิทยุเข้ามาที่ตัวแท็ก แท็กก็จะส่งข้อมูลออกมา ซึ่งคลื่นวิทยุที่ใช้ก็แบ่งตามคลืนความถี่ที่ใช้ (ต้องตรงกันกับเครื่องอ่าน/เขียน) แบ่งความจุของแท็ก

          การเชื่อมต่อ RFID Module กับ Arduino ก็ตามรูปเลย

          RFID ที่ผมมีเป็นรุ่น PN532 ทำงานที่ความถี่ 13.56MHz. ราคาก็ประมาณ 330 บาท

          สำหรับแรงกันที่จะป้อนให้บอร์ดก็ 3.3 - 5V ครับ และที่บอร์ดมีวงจรปรับแรงดันมาตรฐาน TTL 5V สำหรับ I2C และ UART 3.3V TTL มาให้ด้วย แถมสนับสนุน NFC กับโทรศัพท์ Android อีกด้วย เรียกว่าดีเลย


          Library : 
                    https://github.com/elechouse/PN532

          Manual : 
 http://www.elechouse.com/elechouse/images/product/PN532_module_V3/PN532_%20Manual_V3.pdf

         
         

วันอังคารที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560

สารให้ความหวาน

      หลายคนคิดว่าอยากจะลดน้ำตาล เพื่อลดอ้วน ทางเลือกนึงก็คือ หันไปใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล แต่รู้มั๊ยว่า สารให้ความหวาน มีกี่ชนิด วันนี้เราจะมารู้จักกันว่ามันมีกี่ชนิดบ้าง


           1. แอสปาเทม

                 ให้ความหวานประมาณ 200-300 เท่าของน้ำตาลทรายในปริมาณเดียวกัน และมีรสชาติใกล้เคียงน้ำตาลทรายมากที่สุด จึงเป็นที่นิยมใช้ในปัจจุบันนี้


           2. ไซลิทอล

                 เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล พบได้ในพืช ผัก ผลไม้หลายชนิด อาทิ สตรอเบอร์รี่ ต้นเบิร์ช


           3. ซัยคาเมต

                 มีความหวานประมาณ 30 เท่าของน้ำตาลซูโครส ซึ่งปัจจุบันได้ห้ามใช้แล้ว ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2522) เนื่องจากพบว่าสามารถทำให้เกิดมะเร็งในสัตว์ทดลอง


           4. ซัคคาริน

                เป็นสารเคมีที่ใช้กันแพร่หลายมีความหวานเป็น 300 - 400 เท่าของน้ำตาลซูโครส  ถ้าหากรับประทานซัคคารินในขนาด 5 - 25 กรัมต่อวันเป็นเวลาหลาย ๆ วัน หรือรับประทานครั้งเดียว 100 กรัม จะทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ปวดท้อง ซึมและชักได้


           5. สตีวิโอไซด์

                 มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว ดูดความชื่นได้ดี มีความหวานประมาณ 280 - 300 เท่าของน้ำตาลทราย ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการให้พลังงานต่ำ ประมาณร้อยละ 0 - 3 แคลอรี จึงเหมาะที่จะใช้เป็นสารให้ความหวานกับอาหารสำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคหัวใจ




วันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2560

การบาดเจ็บที่ดวงตา

      วันนี้คิดจะช่วยแม่ทำกับข้าวในครัว แต่ได้เรื่องน้ำมันทอดกระเด็น เข้ามาที่ใบหน้า แต่ด้วยมีสติ จึงรีบเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำจากฝักบัวรดหน้าเพื่อช่วยลดความร้อน กับทั้งน้ำมันยังไม่ร้อนจัด จึงไม่เป็นอะไร ก็เลยหยิบยกเรื่องการปฐมพยาบาลมาดูกันสักนิด

      ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ เฉียดโดนลูกตาไปนิดนึง จึงคิดว่า หากโดนตาจังๆคงแย่ ดังนั้นเลยหาข้อมูลเกี่ยวกับการบาดเจ็บดวงตา (ขอใส่เป็น link นะครับ)

      http://mcpswis.mcp.ac.th/html_edu/cgi-bin/mcp/main_php/print_informed.php?id_count_inform=15659
     

วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560

สารดูดความชื้น

      สารดูดความชื้น หรือบางคนเรียกสารกันความชื้น หลายคนไม่รู้ว่ามันมีหลายชนิด ผมเองก็เพิ่งจะรู้ว่ามันมีด้วยกันดังนี้


           1. ซิลิก้า เจล (Silica Gel) เป็นสารสังเคราะห์ของทรายขาวผสมกรดกัมมะถัน ลักษณะเป็นเม็ดเจลกลม มีโพรงและรูพรุน แบ่งได้ 4 ชนิด

                - ชนิดสีขาว เป็นเม็ดสีขาวขนาดประมาณ 2 - 5 มิลลิเมตร สามารถดูดความชื้นได้ประมาณ 35% - 40%

                - ชนิดสีน้ำเงิน เป็นเม็ดสีน้ำเงิน ส่วนความสามารถก็เหมือนกับชนิดสีขาว แต่พิเศษกว่าตรงที่มีการเติมสารชนิดหนึ่งเข้าไปเพื่อใช้ตรวจวัดระดับความชื้นที่ดูดกักเก็บไว้แล้ว คือ ปกติจะเป็นสีน้ำเงิน เมื่อมีระดับความชื้นเพิ่มขึ้น สีจะเปลี่ยนไปเป็นสีชมพูหรือม่วงอ่อน นั่นคือสารดูดความชื้นหมดอายุการใช้งานแล้วต้องเปลี่ยนใหม่

                - ชนิดสีส้ม เหมือนกับชนิดสีน้ำเงินทุกประการ ที่ต่างกันก็มีอยู่ว่า มันใช้สารจากธรรมชาติให้สีปกติเป็นสีส้ม และเมื่อใช้งานก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม

                - ชนิดเม็ดทราย เหมือนชนิดสีขาว แต่มีขนาดเล็กกว่า นั่นคือ 1 มิลลิเมตร


           2. สารดูดความชื้นจากธรรมชาติ ผลิตจากดินไดอะตอมเมเชียล เอิร์ท ลักษณะเป็นเม็ดกรวดสีน้ำตาล หรือสีเทา ไม่ก่อให้เกิดมลพิษกับสิ่งแวดล้อม มีความสามารถในการดูดความชื้นที่ 35% - 40%


           3. สารดูดความชื้นชนิดอื่นๆ มีความสามารุถในการดูดความชื้นต่ำกว่า 30%  อาทิเช่น แคลเซี่ยมออกไซด์ , โมเลกุลล่า ซีฟ , แคลเซี่ยม ซัลเฟต เป็นต้น



วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ชนิดของสารกันบูด

      สารกันบูด คืออะไรก็ได้พูดไปแล้ว คราวนี้มาดูกันว่า สารกันบูดมีกี่ชนิด


           1. กรดและเกลือของกรดบางชนิด เช่น กรดเบนโซอิก กรดซอร์บิก กรดโปรปิโอนิก ฯลฯ สารกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะให้ผลยับยั้งราและ ยีสต์มากกว่าแบคทีเรีย ข้อดีของสารกลุ่มนี้คือมีความเป็นพิษต่ำ เพราะ ร่างกายคนสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นสารอื่นที่ไม่มีพิษและขับถ่ายออกจาก ร่างกายได้

           2. พาราเบนส์ (parabens) เป็นสารกันบูดที่มีประสิทธิภาพยับยั้ง หรือทำลายราและยีสต์ได้ดีกว่าแบคทีเรีย ร่างกายคนจะมีกระบวนการขจัดพิษของพาราเบนส์ ได้โดยปฏิกิริยาไฮโดรลีซิส (hydrolysis)

           3. ซัลเฟอร์ไดออกไซด์และซัลไฟต์ สารกันบูดชนิดนี้จะคล้ายคลึงกับสารกันบูดกลุ่มแรกและจะมีประสิทธิภาพสูง สารชนิดนี้สามารถขับออกจากร่างกายได้ก็จริง แต่หากร่างกายได้รับสารนี้ มากเกินไป สารดังกล่าวจะไปลดการใช้โปรตีนและไขมันในร่างกายได้

           4. สารปฏิชีวนะ ข้อดีของสารปฏิชีวนะคือ ความเป็นกรดด่างของ อาหาร ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพของสาร ซึ่งอาหารที่นิยมใส่สารปฏิชีวนะ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ อาจจะพบว่าใช้กับผักและผลไม้สดด้วย ข้อเสียของสารกันบูดชนิดนี้คือมักจะก่อให้เกิดสายพันธุ์ต้านทานขึ้น


     อย่างไรก็ตามการใช้วัตถุกันเสียในการถนอมอาหารตามสัดส่วนที่ อย.ระบุว่าปลอดภัยแม้ว่าจะไม่มีอันตราย แต่การหลีกเลี่ยงบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของวัตถุกันเสียก็เป็นการดีกว่า เมื่อรู้แล้วลองดูที่ฉลากก่อนดื่ม ก่อนใช้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตมากขึ้นนะครับ